สุนัขหมายเลขหนึ่ง ของ ‘ไบเดน’ ถูกส่งกลับบ้าน หลังกัด รปภ.

สุนัขหมายเลขหนึ่ง ของ ‘ไบเดน’ ถูกส่งกลับบ้าน หลังกัด รปภ.

‘เมเจอร์’ และ ‘แชมป์เปียน’ สุนัขหมายเลขหนึ่ง ของ โจ ไบเดน ต้องถูกส่งกลับ หลัง เมเจอร์ งับ รปภ. จนทำให้ได้รับบาดเจ็บ โจ ไบเดน – เมื่อวันที่ 10 มีนาคม สำนักข่าว ABC รายงานว่า ทำเนียบขาวได้ยืนยันว่าพวกเขาได้ส่ง ‘เมเจอร์’ และ ‘แชมป์เปียน’ สุนัขพันธุ์เยอรมันเชพเพิดสองตัว ของนาย โจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ไปยังบ้านพักของเพื่อนในรัฐเดลาแวร์

หลังจากที่เจ้า ‘เมเจอร์’ สุนัขวัย 3 ขวบ กัดเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา

โฆษกทำเนียบขาวระบุว่า เมเจอร์ ยังคงต้องใช้เวลาในการทำความคุ้นเคยกับสภาพแวดล้อมใหม่และคนใหม่ๆ และเป็นเหตุให้เมเจอร์กัด รปภ. จนทำให้เจ้าหน้าที่ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย ทั้งนี้โฆษกยืนยันว่าสุนัขทั้งสองตัวจะกลับมาประจำทำเนียบขาวอีกครั้ง แต่ไม่มีการยืนยันชัดเจนว่าทั้งสองตัวจะกลับมาที่ทำเนียบขาวเมื่อใด

โจและจิล ไบเดน รับอุปการะเมเจอร์ จากที่พักพิงสัตว์จรจัด  เมื่อปีที่ผ่านมา ส่งผลให้เมเจอร์เป็นสุนัขจากสถานที่พักพิงตัวแรกที่ได้ประจำอยู่ที่ทำเนียบขาว อย่างไรก็ตามนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เกิดเหตุการณ์ทำนองดังกล่าวขึ้น เพราะหากย้อนกลับไปเมื่อปี 2560 ที่ผ่านมา สุนัขของนาย บารัค โอบามา อดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯได้ลงมือกัดแขกที่มาเยี่ยมทำเนียบขาว

โดยสำนักพระราชวังได้แสดงความเสียใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น พร้อมระบุว่าประเด็นดังกล่าวเป็นเรื่องที่น่าวิตกกังวล และจะมีการพูดคุยหารือกันภายในครอบครัว ซึ่งในแถลงการยังได้ระบุอีกว่า เจ้าชายแฮร์รี และเมแกน เป็นที่รักของครอบครัวเสมอ ซึ่งสำนักข่าว CNN ระบุว่า เจ้าชายแฮร์รี และเมแกน จะไม่ออกความเห็นถึงแถลงการฉบับดังกล่าวจากสำนักราชวัง

ประเด็นฮือฮานี้เกิดขึ้นเมื่อช่วงค่ำของวันที่ 7 มีนาคมที่ผ่านมา ตามเวลาสหรัฐฯ โดย คู่รักราชวงศ์ที่ถอนตัวจากการเป็นพระบรมวงศานุวงศ์ ได้ให้สัมภาษณ์ในรายการของ โอปราห์ วินฟรีย์ ที่ออกอากาศบนสถานีซีบีเอส และมีผู้ชมมากกว่า 17 ล้านคน

การสัมภาษณ์ครั้งพิเศษ ถือว่ามีผู้ชมมากกว่าการถ่ายทอดการประกาศรางวัลเอ็มมีและรางวัลลูกโลกทองคำ ทั้งสร้างประเด็นข่าวเกรียวกราวไปทั่วโลก จากการเปิดประเด็นของเมแกน อดีตนักแสดงชาวอเมริกัน โดยเฉพาะความทุกข์ระทมกับชีวิตในวังถึงขั้นคิดฆ่าตัวตาย ไปจนถึงเรื่องที่โอรสอาร์ชีไม่ได้เป็นเจ้าชาย เพราะถูกกังขาว่าจะมีสีผิวอะไรตั้งแต่อยู่ในครรภ์

Google จัดทำ doodle เพื่อร่วมระลึกถึงวันเกิดปีที่ 142 ของ วู ลีน เทห์ (Wu Lien-teh) นักระบาดวิทยา ผู้คิดค้นหน้ากากอนามัย ซึ่งตรงกับวันที่ 10 มี.ค. วู ลีน เทห์ – วันนี้หากใครเข้าหน้าเว็บไซต์ Google คงจะพบกับ doodle ที่เป็นภาพการ์ตูนของผู้ชายคนหนึ่งกำลังตัดเย็นหน้ากากอนามัย และนำไปแจกจ่ายให้ผู้อื่น

ซึ่ง doodle ดังกล่าว มีขึ้นเพื่อร่วมเฉลิมฉลองและระลึกถึง วันเกิดปีที่ 142 ของ วู ลีน เทห์ แพทย์และนักระบาดวิทยา ผู้คิดค้นซึ่งตรงกับวันที่ 10 มี.ค.

ผู้ชุมนุมเมียนมา ออกจากตึกแล้ว หลังถูกล้อมข้ามคืน

รัฐประหารเมียนมา – เมื่อวันที่ 9 มีนาคม สำนักข่าว ชาแนลนิวส์เอเชีย รายงานว่า ผู้ชุมนุมเมียนมานับสองร้อยคนที่ติดอยู่ในอพาร์ทเม้นท์แห่งหนึ่งในนครย่างกุ้งสามารถออกจากตึกได้แล้ว หลังจากที่เจ้าหน้าที่รักษาความได้ทำการปิดล้อมอาคาร ตั้งแต่คืนวันจันทร์ที่ผ่านมา

การปล่อยตัวครั้งนี้เกิดขึ้นหลังจากที่สหประชาชาติออกมากดดันให้กองทัพเมียนมาปล่อยตัวประชาชน พร้อมชี้ว่าผู้ชุมนุมได้ชุมนุมอย่างสันติและเดินขบวนเฉลิมฉลองวันสตรีสากล

ขณะเดียวกันในช่วงคืนที่ผ่านมาประชาชนในนครย่างกุ้งได้ผ่าฝืนคำสั่งเคอร์ฟิว และออกมาตะโกนให้เจ้าหน้าที่ปล่อยตัวผู้ชุมนุมที่ถูกปิดล้อม โดยสำนักข่าวรอยเตอร์ระบุว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ยิงปืนและขว้างระเบิดเพื่อสลายการชุมนุม เคราะห์ดีไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิตจากการชุมนุมในช่วงค่ำ

นอกจากนี้ยังมีรายงานอีกว่าเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยได้บุกบ้านเรือนของประชาชนในช่วงค่ำ เพื่อจับกุมประชาชน ซึ่งโพสต์ในเฟซบุ๊กระบุว่ามีประชาชนถูกควบคุมตัวแล้วอย่างน้อย 20 คน

สถานการณ์ชุมนุมประท้วงในประเทศเมียนมา ยังคงร้อนระอุอย่างต่อเนื่อง หลังจากที่ พล.อ.มิน อ่อง หล่าย ได้ยึดอำนาจ พร้อมจับกุมนาง อองซานซูจี ที่ปรึกษาแห่งรัฐเมียนมา ในข้อหาโกงการเลือกตั้งเมื่อช่วงเดือนพฤศจิกายน ปีที่ผ่านมา เมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา

ซึ่งพล.อ. มิน อ่อง หล่าย ผู้บัญชาการทหารสูงสุดเมียนมารับปาก จะจัดการเลือกตั้งทันทีหลังยึดอำนาจ 1 ปีตามที่ประกาศเอาไว้ จากการก่อรัฐประหารครั้งนี้นำไปสู่เหตุชุมนุมต่อเนื่องหลายวัน จนนำไปสู่เหตุความรุนแรงที่เกิดขึ้น และมีผู้เสียชีวิตรวมแล้วอย่างน้อย 54 ศพ และมีผู้ชุมนุมถูกจับกุมกว่า 1,700 คน

ครอบครัวของ วู ลีน เทห์ คือชาวจีนอพยพที่มาตั้งรกรากในเมืองปีนัง ประเทศมาเลเซีย (อาณานิคมของสหราชอาณาจักรในขณะนั้น)  ซึ่งอู่เกิดเมื่อวันที่ 10 มีนาคม ค.ศ. 1879 หลังจบชั้นประถมที่โรงเรียนปีนังฟรีสกูล เขาได้ทุนการศึกษาของพระบรมราชินีนาถสำหรับอาณานิคมอังกฤษที่มลายูและสิงคโปร์ เพื่อเข้าศึกษาแพทยศาสตร์ต่อที่มหาวิทยาลัยเคมบริดจ์ในปี 1896 ซึ่งทำให้เขาเป็นนักเรียนเชื้อสายจีนคนแรกที่คว้าปริญญาสาขาแพทย์ศาสตร์จากเคมบริดจ์ได้สำเร็จ

แนะนำ : ดูดวงไพ่ยิปซี | รีวิวที่พัก | รีวิวคาเฟ่ | วิธีลดน้ำหนัก | รีวิวอนิเมะ ญี่ปุ่น